เมนู

เรื่องให้ตายด้วยน้ำฉัน 3 เรื่อง


1. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายได้ให้น้ำมัน
แก่ภิกษุนั้น ๆ ถึงมรณภาพ พวกเธอมีความรังเกียจว่า พวกเราต้องอาบัติ
ปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกรานทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัส
ถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอคิดอย่างไร.
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มิได้มีความประสงค์จะให้ตาย พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ไม่มีความประสงค์จะให้ตาย ไม่ต้อง
อาบัติ.
2. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายมีความ
ประสงค์จะให้ตาย จึงได้ให้น้ำมันแก่ภิกษุนั้น ภิกษุนั้นถึงมรณภาพ พวกเธอ
มีความรังเกียจว่า พวกเราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูล
เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอ
คิดอย่างไร.
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความประสงค์จะให้ตาย พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.
3. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธ ภิกษุทั้งหลายมีความ
ประสงค์จะให้ตาย จึงได้ให้น้ำมันแก่ภิกษุนั้น แต่ภิกษุนั้นไม่ถึงมรณภาพ
พวกเธอมีความรังเกียจว่า พวกเราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึง
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
พวกเธอคิดอย่างไร.
ภิ. พวกข้าพระพุทธเจ้า มีความประสงค์จะให้ตาย พระพุทธเจ้าข้า.
ภ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ต้อง
อาบัติถุลลัจจัย.

เรื่องหญิงมีครรภ์กับชู้


[215] ก็โดยสมัยนั้นแล สตรีคนหนึ่ง สามีเลิกร้างไปนาน จึงมี
ครรภ์กับชายชู้ นางได้บอกเรื่องนี้กะภิกษุกุลุปกะว่า นิมนต์เถิดเจ้าข้า ขอท่าน
จงรู้เภสัชที่ทำให้ครรภ์ตก ภิกษุนั้นรับคำว่า ดีละน้องหญิง แล้วได้ให้เภสัช
ที่ทำให้ครรภ์ตกแก่หญิงนั้น ทารกได้ถึงแก่ความตาย เธอมีความรังเกียจว่า
เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระ
ภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิกแล้ว.

เรื่องหญิงร่วมสามี 2 เรื่อง


1. ก็โดยสมัยนั้นแล บุรุษคนหนึ่งมีภรรยา 2 คน ๆ หนึ่งเป็นหมัน
อีกคนหนึ่งมีปกติตลอด หญิงหมันได้เล่าเรื่องนี้กะภิกษุกุลุปกะว่า ท่านเจ้าข้า
ถ้านางคนนั้นตลอดบุตร จักได้ครอบครองทรัพย์สินทั้งมวล นิมนต์เถิดเจ้าข้า
ท่านจงรู้เภสัชที่ทำให้ครรภ์ตกแก่นาง ภิกษุนั้นรับคำว่า ดีละน้องหญิง แล้ว
ได้ให้เภสัชที่ทำให้ครรภ์ตกแก่หญิงนั้น ทารกได้ถึงแก่ความตาย แต่มารดา
ไม่ตาย เธอมีความรังเกียจว่า เราต้องอาบัติปาราชิกแล้วกระมังหนอ จึง
กราบทูลเรื่องนั้น แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ เธอต้องอาบัติ
ปาราชิกแล้ว.
2. ก็โดยสมัยนั้นแล บุรุษคนหนึ่งมีภรรยา 2 คน ๆ หนึ่งเป็นหมัน
อีกคนหนึ่งมีปกติตลอด หญิงหมันได้เล่าเรื่องนี้กะภิกษุกุลุปกะว่า ท่านเจ้าข้า
ถ้านางคนนั้นตลอดบุตร จักได้ครอบครองทรัพย์สินทั้งมวล นิมนต์เถิดเจ้าข้า
ท่านจงรู้เภสัชที่ทำให้ครรภ์ทกแก่นาง ภิกษุนั้นรับคำว่า ดีละน้องหญิง แล้ว
ได้ให้เภสัชที่ทำให้ครรภ์ตกแก่หญิงนั้น มารดาได้ถึงแก่ความตาย แต่ทารก